การประกวดนางงาม ของ ปรียานุช ปานประดับ

ปรียานุชเข้าสู่วงการนางงามโดยการเข้าประกวด มิสไทยแลนด์เวิลด์ 1986 แต่เข้าถึงเพียงรอบ 10 คนสุดท้าย โดยมีแสงระวี อัศวรักษ์ ครองมงกุฎ และดวงเดือน จิไธสงค์ กับ ศุภรานันท์ พันธ์ชูจิตร เป็นรอง

2 ปี ถัดมา ปรียานุช เข้าประกวดนางสาวไทย พ.ศ. 2531 และเป็นม้ามืดคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 ชนะศุภรานันท์ พันธ์ชูจิตร ที่ได้เพียงรองอันดับ 3 โดยภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ได้เป็นนางสาวไทยในปีนั้น และต่อมาได้เป็นนางงามจักรวาล

ปรียานุชได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวดมิสเอเชียแปซิฟิก ปี 1988 ซึ่งจัดการเก็บตัวที่ฟิลิปปินส์ และประกวดที่ ฮ่องกง ซึ่งในตอนแรกช่อง 3 จะส่ง กรองทอง รัชตะวรรณ รอง มิสไทยแลนด์เวิลด์ 1987 (ต่อมาเป็นนางแบบและได้ขึ้นปก Penthouse ภาษาไทยฉบับปฐมฤกษ์) แต่ในที่สุด ช่อง 7 แย่งสิทธิกลับคืนมาได้และส่งปรียานุชไปประกวด

ในการเก็บตัวที่ฟิลิปปินส์ ปรียานุชได้รับ 2 รางวัลคือ บุคลิกภาพ และขวัญใจช่างภาพ และได้ขึ้นแท่นเป็นตัวเก็งที่จะคว้ามงกุฎ

ในการประกวดรอบสุดท้าย ปรียานุช ประเดิมตำแหน่งแรกของการถ่ายทอดสดคือชุดประจำชาติยอดเยี่ยม ซึ่งบังเอิญว่าปีนั้นกงสุลไทยประจำฮ่องกง ลิขสิทธิ์ ปานสมจิตร ได้รับเชิญเป็นผู้มอบรางวัล

ปรียานุชได้รับการประกาศชื่อเข้ารอบ 16 คน และ 8 คนตามลำดับ ในรอบ 8 คนปรียานุชตอบคำถามเป็นภาษาไทยเกี่ยวกับสวรรค์ของประเทศไทย โดยมีล่ามแปลเป็นภาษาอังกฤษ

จาก 8 คน พิธีกรประกาศรองอันดับ 4 - 1 ได้แก่ Miss Korea, Miss Nothern Nicosia (Cyprus) , Miss Israel และ Miss Mexico ตามลำดับ เหลือเพียง Miss Costa Rica (ตัวเก็งอีกคนหนึ่ง เคยเข้าประกวดแต่ตกรอบแรกจาก Miss Universe 1988 ที่ปุ๋ยภรณ์ทิพย์ได้มงกุฎ) , Miss Panama, Miss Thailand และ Miss Turkey ซึ่งปรียานุชได้รับการประกาศให้เป็นผู้ครองมงกุฏ

หลังจากหมดตำแหน่งปรียานุชได้กลายเป็นนักแสดงชื่อดังแต่ครองตัวเป็นโสด จนกระทั่งได้คบหาเปิดเผยกับ นพพล โกมารชุน นักแสดงและผู้กำกับชื่อดัง แต่ไม่มีบุตรด้วยกันเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพของเธอ ปรียานุชได้เผชิญกับโรคกว่า 20 โรค ผ่านการผ่าตัดมา 7 ครั้ง และต้องนั่งวิลแชร์เป็นเวลา 2 ปี แต่ปัจจุบันสามารถเดินได้แล้วแต่มีอาการปวดข้อบ้างทำให้เดินไม่สะดวก[1]